เนย์มาร์, เอ็มบั๊ปเป้, กรีนวู้ด พัฒนาไประดับ เมสซี่, โรนัลโด้

เนย์มาร์, เอ็มบั๊ปเป้, กรีนวู้ด พัฒนาไประดับ เมสซี่, โรนัลโด้

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต่างครองความยิ่งใหญ่ของโลกฟุตบอลได้แบบผูกขาด กับความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมหลังทั้งคู่แสดงศักยภาพออกมาให้ได้เห็นไปทั่วโลก กับสถิติส่วนตัว และการช่วยทีมคว้าแชมป์ โดยทั้งคู่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมบัลลง ดอร์ ไปคนละ 5 สมัย ก่อนที่ ลูก้า โมดริช จะหยุดสถิติดังกล่าวในปี 2018

เมสซี่คว้ารางวัลบัลลง ดอร์ สมัยที่ 6 ไปเมื่อปีที่แล้ว โดยปัจจุบันเจ้าตัวเข้าสู่วัย 33 ปี ในขณะที่โรนัลโด้อายุ 35 ปีแล้ว ซึ่งเหลือเวลาในวงการฟุตบอลไม่นานนัก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวถึงความคาดหวังกับช่วงเวลาดังกล่าว หากสองสตาร์แขวนสตั๊ดเลิกเล่นฟุตบอล

เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และเมสัน กรีนวู้ด เป็นรายชื่อนักเตะที่เบอร์บาตอฟเชื่อว่าสามารถพัฒนาการเล่นไปอยู่ในระดับเดียวกับเมสซี่และโรนัลโด้ในอนาคตได้

เนย์มาร์และเอ็มบั๊ปเป้ เป็นสองดาวยิงของปารีส แซงต์ แชร์กแมง และต่างได้รับการยกย่องไปมากมายในเวลานี้ โดยติดใน 5 ลำดับแรกของนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ส่วนกรีนวู้ดวัย 18 ปี เพิ่งจะได้รับโอกาสลงสนามจากโอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลนี้ และทำไปได้ 15 ประตู จากการลงสนามรวมทุกรายการ

เบอร์บาตอฟ ถูกถามถึงเพื่อนเก่าอย่างโรนัลโด้ที่เคยเล่นด้วยกันในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และอดีตกองหน้าทีมชาติบัลแกเรียกล่าวว่า “เขาอยู่กับทีมมา 2 ปีแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับการเซ็นสัญญามายังยูเวนตุส ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่า เขาไม่ได้ทำสิ่งที่มหัศจรรย์ที่อิตาลี โดยเฉพาะเมื่อมองถึงอายุของเขา เขาอายุ 35 ปี โอ้วพระเจ้าช่วย เขายังเล่นในระดับนี้ได้ และเขาก็ทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ”

“เขาดูแลตัวเองได้ดีมากและทำได้ดีกว่าใคร คุณต้องทำงานหนักมากเพื่อให้มีสภาพร่างกายเหมือนกับเขา เมสซี่และโรนัลโด้เป็นเหมือนกับทรัพย์สมบัติของวงการฟุตบอล พวกเขาพิเศษมากๆ มันจะเป็นวันที่มืดมนเอามากๆ ของโลกฟุตบอล เมื่อโรนัลโด้เลิกเล่นฟุตบอล แม้แต่คนไม่ชอบเขา แต่พวกเขาก็ล้วนชื่นชมเขา หากวันนั้นมาถึง แต่ผมก็หวังว่าวันนั้นมันจะยังไม่มาถึง กับวันที่เขาเลิกเล่น กับนักเตะคนอื่นที่จะเข้ามาแทนที่เขา เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปเล่และมาราโดน่า มันเป็นวัฏจักร”

“พวกเรามีเนย์มาร์, เอ็มบั๊ปเป้ และกรีนวู้ด กับนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย นั่นคือสิ่งที่หวังว่าพวกเขาจะพัฒนาไปอยู่ในระดับของเมสซี่และโรนัลโด้ได้ มันน่าเหลือเชื่อมากๆ หากมันเป็นไปได้”

เดอ บรอยน์ คือนักเตะที่อยู่ในระดับเดียวกับ โรนัลโด้, เมสซี่, เอ็มบั๊ปเป้

เดอ บรอยน์ คือนักเตะที่อยู่ในระดับเดียวกับ โรนัลโด้, เมสซี่, เอ็มบั๊ปเป้

แจ็ค กรีลิช กองกลางตัวเก่งของแอสตัน วิลล่า ออกมากล่าวยกย่อง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเชื่อว่า นักเตะสามารถทำได้ทุกอย่าง และควรจะได้รับการยกย่องให้อยู่ในระดับเดียวกับ ลีโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และคิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

กรีลิชเป็นหนึ่งในนักเตะที่โชว์ฟอร์มกับวิลล่าออกมาได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ แม้ทีมจะต้องลุ้นหนีตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก โดยเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่ต้องการคว้าตัวไปยังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และคาดว่านักเตะมีโอกาสสูงที่จะได้ย้ายออกจากวิลล่า พาร์ค ในช่วงซัมเมอร์

แต่อย่างไรก็ตาม กรีลิช ได้ออกมากล่าวชื่นชมเดอ บรอยน์ ถึงการเป็นส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขัน และมีศักยภาพที่จะทำทุกอย่างในสนามให้ออกมายอดเยี่ยม และดาวเตะชาวอังกฤษเลือกเดอ บรอยน์ เป็นไอดอลของเขา

กรีลิช กล่าวว่า “เดอ บรอยน์! ผมรักเขา ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่น่าเหลือเชื่อ และผมพยายามทำเกมของผมให้ได้เหมือนกับเขา โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขาลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 ผมคิดว่า เดอ บรอยน์มีทุกอย่างเพียบพร้อม เขามีสิ่งต่างๆ มากมายในตัวเขา แต่เขาไม่ได้รับเครดิตอย่างเพียงพอ เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเขาขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับลีโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และคิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ในเวลานี้”

กรีลิชยังกล่าวถึงความมุ่งมั่นในการกลับมาแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 อีกครั้ง หลังถูกหยุดมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะที่พรีเมียร์ลีกตั้งเป้าที่จะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 17 มิถุนายน และดาวเตะวัย 24 ปี กล่าวว่า “ผมคิดว่า ทุกคนกำลังเฝ้ามองเกมเหล่านั้นทางโทรทัศน์ และผมรู้สึกว่า มันเป็นแรงกระตุ้นสำหรับผม มันเป็นเกมใหญ่ที่ทุกคนเฝ้ารอ”

“พวกเรายังมีอีก 10 เกมที่สำคัญมากๆ และผมคิดว่า เกมแรกมันสำคัญมาก ถ้าสุดท้ายพวกเราชนะได้ มันจะทำให้พวกเรากระโดดออกจากโซนตกชั้นได้ ทุกคนรู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่พวกเรามีความมั่นใจ และพวกเราจะกลับมาได้แน่นอน เมื่อพวกเรากลับมาฟิตแบบเดิม”

“ผมไม่ได้ต้องการพูดถึงใครในทิศทางที่ไม่ดี ผมยอมรับว่า มันเป็นความกดดันสำหรับตัวผม ผมรักความเป็นจริง กับการเป็นกัปตันทีมของสโมสร พวกเราต้องการประสบความสำเร็จกับเป้าหมายของพวกเราในฤดูกาลนี้ พวกเราต้องต่อสู้กับไวรัส พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน สำหรับการต่อสู้กับทุกๆ อย่างที่พวกเราต้องเผชิญ”