หลุยส์ ฟาน ฮาล ตอกกลับสื่อในประเทศที่ชื่นชม บราซิล แต่วิจารณ์ทีมของเขา

หลุยส์ ฟาน ฮาล ตอกกลับสื่อในประเทศที่ชื่นชม บราซิล แต่วิจารณ์ทีมของเขา

หลุยส์ ฟาน ฮาล ไม่เห็นด้วยหลังจากที่สื่อมวลชนได้มีการชื่นชมการเล่นฟุตบอลของบราซิล ซึ่งในตอนนี้ก็มีสื่อหลายแห่งยกให้ บราซิล ขึ้นเป็นทีมเต็งแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้หลังจากที่พวกเขาสามารถถล่มเอาชนะ เกาหลีใต้ ไปด้วยสกอร์ 4-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยในเกมดังกล่าว บราซิล ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงตั้งแต่เกมในช่วงครึ่งแรก โดยพวกเขาซัดไป 4 ประตูรวดในช่วงครึ่งแรกก่อนที่ เกาหลีใต้ จะพยายามทำประตูตีตื้นมาได้ 1 ประตูในช่วงครึ่งหลัง

จากผลงานในเกมดังกล่าวทำให้ บราซิล ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากจากสื่อมวลชนทั่วโลก รวมถึงสื่อฟุตบอลใน เนเธอร์แลนด์ ด้วย ซึ่งสื่อในกลุ่มเดียวกันนี้ก็ได้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของทีมของ หลุยส์ ฟาน ฮาล ด้วย และเรื่องราวดังกล่าวก็ได้สร้างความไม่พอใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก ซึ่ง หลุยส์ ฟาน ฮาล เองก็มองว่าผลงานของ เนเธอร์แลนด์ ในการผ่านเข้ารอบก็ไม่ได้ต่างไปจาก บราซิล

หลุยส์ ฟาน ฮาล ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเห็นการเล่นของพวกเขาแล้ว ผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาแตกต่างไปจากเรา สิ่งที่แปลกคือผมอ่านเจอในสื่อ พวกเขาบอกว่านั่นคือการแล่นที่เปล่งประกายและโดดเด่น แต่ผมมองว่าทีมของเราก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน และเราก็ทำประตูได้ด้วย นั่นคือเป้าหมายของทีม มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของฟุตบอลโลกจนถึงตอนนี้ ทีมของเราทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจริงๆ”

เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสที่จะได้ลงสนามพบกับ บราซิล ในการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ในรอบรองชนะเลิศ แต่แน่นอนว่าพวกเขาต้องผ่านด่านแรกไปให้ได้ก่อนในการเจอกับทีม อาเจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งทางด้านของ หลุยส์ ฟาน ฮาล เองก็เปิดเผยว่าทีมของเขามีวิธีที่จะรับมือกับทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อที่จะพาทีมพวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปด้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเซฟเงินได้ถึง 15 ล้านปอนด์หากปล่อย คริสเตียโน โรนัลโด้ ออกจากทีม

แมนยู สามารถเซฟเงินได้ถึง 15 ล้านปอนด์หากปล่อย โรนัลโด้ ออกจากทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถเซฟเงินได้อย่างน้อย 15 ล้านปอนด์หาก เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจปล่อย คริสเตียโน โรนัลโด้ ออกจากสโมสรในช่วงเดือนมกราคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีรายงานข่าวออกมาเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อนุญาตให้ผู้เล่นจอมเก๋าของพวกเขาออกจากสโมสรได้ในช่วงเปิดตลาดนักเตะในเดือนมกราคม

คริสเตียโน โรนัลโด้ หมดหวังที่จะออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่มีสโมสรใดที่ยื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อตัวเขาไปร่วมทีมด้วย เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวค่อนข้างสูง และไม่น่าจะมีสโมสรใดที่จะเต็มจ่ายค่าเหนื่อยให้กับนักเตะหนุ่มรายนี้ที่มูลค่า 500,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ บวกกับการที่ เอริค เทน ฮาก ต้องการให้กัปตันทีมชาติโปรตุเกสรายนี้อยู่กับทีมต่อด้วย

แต่หลังจากที่ คริสเตียโน โรนัลโ ได้อยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปซักระยะหนึ่งก็ดูเหมือนว่าพฤติกรรมของเขาจะได้สร้างความไม่พอใจให้กับเฮดโค๊ชอย่าง เอริค เทน ฮาก เป็นอย่างมากจากการที่เขาเองไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากเท่าไหร่ และความสัมพันธ์ระหว่าง เอริค เทน ฮาก กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ก็ถึงจุดตึงเครียดอีกครั้งหลังจากที่เขาได้เดินออกจากสนามก่อนที่จะจบเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์

โดยปกติแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องจ่ายเงินค่าเหนื่อยให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นเงิน 500,000 ปอนด์ในทุกสัปดาห์ แต่ถ้าหากสโมสรตัดสินใจปล่อยให้เขาออกจากทีมไป จะช่วยสโมสรได้ประหยัดเงินไปได้ประมาณ 15 ล้านปอนด์ ซึ่งมันก็ถือเป็นเงินจำนวนมากสำหรับการจ่ายค่าเหนื่อยกับผู้เล่นคนหนึ่ง และมันก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีทั้งสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียโน โรนัลโด้ ด้วย

คริสตอฟ ฟรอยด์ อาจถูกแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ เชลซี ก่อนเปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงต้นปี

คริสตอฟ ฟรอยด์ อาจถูกแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ เชลซี

เชลซี กำลังมองหาคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ก่อนเปิดตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงเดือนมกราคมนี้ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีรายงานข่าวออกมาเปิดเผยว่า คริสตอฟ ฟรอยด์ กำลังถูกพิจารณาให้เข้ามารับตำแหน่งนี้ หลังจากที่เขาสามารถผลงานใหกับสโมสรได้อย่างมากมายในช่วงที่เขาทำงานกับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ซึ่งเขาสามารถพานักเตะฝีมือดีหลายเข้ามาเซ็นสัญญากับสโมสรได้

คริสตอฟ ฟรอยด์ ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในช่วงปี 2015 โดยเขาได้เข้ามารับหน้าที่ต่อจาก ราล์ฟ รังนิค ที่ดูแลเรื่องซื้อขายนักเตะให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก อยู่ในตอนนั้นก่อนที่จะผลันตัวไปเป็นโค๊ช โดยทางด้านของ คริสตอฟ ฟรอยด์ สามารถเซ็นสัญญากับผู้เล่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คน แต่ผู้เล่นที่เขาได้พาเข้ามาในทีมกลับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นที่ต้องการตัวของหลายๆ สโมสร ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีนักเตะหนุ่มของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เราน่าจะรู้จักกันดี นั่นก็คือ เออร์ลิง ฮาแลนด์

นอกจาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ แล้วก็ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่ผ่านมาของ คริสตอฟ ฟรอยด์ ที่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น คาริม อเดเยมี่, ซาดิโอ มาเน่ หรือ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เล่นที่มีราคาไม่แพงมากในช่วงที่ถูกซื้อเข้ามาร่วมทีม และนักเตะเหล่านี้ก็ล้วยแต่ทำกำไรให้กับสโมสรมาแล้วหลายลานปอนด์เช่นกัน

และอีกหนึ่งนักเตะที่สามารถทำกำไรให้กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก อย่างมหาศาลก็คือ แพตสัน ดาก้า ซึ่งทางด้านของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ได้ซื้อนักเตะหนุ่มรายนี้มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 225,000 ปอนด์ และถูกขายให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในราคา 27 ล้านปอนด์ และนั่นชี้ให้เห็นว่านอกจาก คริสตอฟ ฟรอยด์ จะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำงานตำแหน่งนี้แล้ว เขายังสามารถช่วยให้ เชลซี ทำกำไรจากการซื้อขายนักเตะในอนาคตได้อีกด้วย

เทน ฮาก อาจจะขาย โรนัลโด้ หลังรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนักเตะ

เทน ฮาก อาจจะขาย โรนัลโด้ หลังรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนักเตะ

เอริค เทน ฮาก ผู้จัดทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาดว่าจะเปิดการขาย คริสเตียโน โรนัลโด้ ก่อนที่จะมีการปิดตลาดซื้อขายนักเตะในวันที่ 1 กันยายน ตามที่มีรายงานจากสำนักข่าวในต่างประเทศ ซึ่งนักเตะทีมชาติโปรตุเกสทำให้เพื่อนร่วมทีมกังวลกับพฤติกรรมของเขาตั้งแต่มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายทีมกับหลายๆ สโมสร และยังไม่เข้าร่วมฝึกซ้อมและทำการแข่งขันอุ่นเครื่องกับทีมในช่วงปรีซีซั่น และเขายังไม่สามารถทำประตูช่วยทีมได้เลยทั้งในเกมกับ ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด

ก่อนหน้านี้ เอริค เทน ฮาก ได้ออกมายืนยันตลอดว่าเขาต้องการที่จะเก็บ คริสเตียโน โรนัลโด้ เอาไว้ แม้ว่าทางด้านของแข้งวัย 37 ปีจะต้องการย้ายออกจากทีมเพื่อไปเล่นให้กับทีมที่ได้สิทธิ์เล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตาม แต่ล่าสุดก็ดูเหมือนว่า เอริค เทน ฮาก จะไม่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ ของเขาแล้ว แม้ว่าจะทำให้ทีมของเขาจะต้องขาดผู้เล่นตัวท็อปของทีมไปก็ตาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เสีย เอดินสัน คาวานี่ ไปในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่นักเตะหนุ่มรายนี้ได้หมดสัญญากับสโมสรในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนทางด้านของ เมสัน กรีนวู้ด ก็ยังไม่มีวี่แววกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้หลังจากที่ลงเล่นในเกมสุดท้ายที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เวสต์แฮม ไปด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจากข่าวลือดังกล่าวก็อาจจะทำให้ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องเสีย คริสเตียโน โรนัลโด้ ออกไปอีกคน

มีรายงานข่าวระบุว่ามีหลายครั้งที่นักเตะหนุ่มทีมชาติโปรตุเกสรายนี้ไม่ร่วมมื้ออาหารกับเพื่อนร่วมทีมในมื้อกลางวันที่ แคร์ริงตัน ซึ่งเขาเลือกที่จะปลีกตัวออกมาจากเพื่อร่วมทีมและรับประทานอาหารลำพังเพียงคนเดียว และมากไปกว่านั้นยังมีรายงานข่าวอีกว่าเขาไม่ค่อยให้ความร่วมมือระหว่างการฝึกซ้อมของทีมเท่าไหร่ และยังไม่เคารพความเข้มงวดในการคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก อีกด้วย

บาร์เซโลน่าปิดดีลราฟินญ่า ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์

บาร์เซโลน่าปิดดีลราฟินญ่า ด้วยค่าตัว 57 ล้านปอนด์

บาร์เซโลน่า เตรียมเซ็นสัญญากับ ราฟินญ่า หลังจากที่ได้ปิดผนึกข้อตกลงมูลค่า 57 ล้านปอนด์ (67 ล้านยูโร) กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งทางด้านของ ราฟินญ่า เองก็ต้องการที่จะย้ายไปเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า และมองข้ามความสนใจของ เชลซี หลังจากที่ เชลซี ได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด หลังจากจบฤดูกาลได้ไม่นาน

เชลซี ได้เข้ามาแย่งชิงลายเซ็นของ ราฟินญ่า กับ อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก่อนที่ บาร์เซโลน่า จะให้ความสนใจในตัวนักเตะหนุ่มวัย 25 ปีรายนี้ และจากรายงานล่าสุดของนักข่าวในต่างประเทศก็ได้รายงานว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ตอบรับข้อเสนอของ บาร์เซโลน่า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาจะกลายเป็นนักเตะคนล่าสุดที่ได้ย้ายไปร่วมทีมของ ชาบี เอร์นานเดซ

บาร์เซโลน่า จะจ่ายค่าฉีกสัญญาก้อนแรกเป็นเงิน 49 ล้านปอนด์ (58 ล้านยูโร) ให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และจ่ายเงินโบนัสให้กับนักเตะเป็นเงิน 8 ล้านปอนด์ (9 ล้านยูโร) ซึ่งถือเป็นค่าฉีกสัญญาของนักเตะที่มีมูลค่ามากที่สุดที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้รับ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้รับมากกว่าการเซ็นสัญญาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ คาลวิน ฟิลลิปส์ ซึ่งมีค่าตัว 42 ล้านปอนด์ โดยทางด้านของ ราฟินญ่า จะเซ็นสัญญากับ บาร์เซโลน่า จนถึงเดือนมิถุนายน 2027

หลายคนได้ให้การยบอมรับในการเซ็นสัญญาของ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้เป็นอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะสบกับปัญหาเรื่องการเงินของสโมสร และตอนนี้ก็มีข่าวออกมาว่า บาร์เซโลน่า ได้ค้างค่าเหนื่อยของ แฟรงกี้ เดอ ยอง เป็นจำนวนเงิน 17 ล้านปอนด์ และปัญหานี้ก็ทำให้ แฟรงกี้ เดอ ยอง ไม่สามารถย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้

สเปอร์ส กำลังเจรจากับ มิดเดิลโบรห์ เพื่อขอซื้อ ดีเจด สเปนซ์

สเปอร์ส กำลังเจรจากับ มิดเดิลโบรห์ เพื่อขอซื้อ ดีเจด สเปนซ์

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่ในการเจรจาขั้นสูงเพื่อเซ็นสัญญากับ ดีเจด สเปนซ์ นักเตะหนุ่มวัย 21 ปีจาก มิดเดิลสโบรห์ ซึ่ง สเปอร์ส เป็นทีมเต็งที่มีโอกาสที่จะเซ็นสัญญากับ ดีเจด สเปนซ์ หลังจากที่นักเตะหนุ่มรายนี้ถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ และมีส่งวนช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลหน้า

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กระตือรือร้นที่จะเซ้นสัญญากับนักเตะรายอื่นๆ เพิ่มเติมอีก และต้องการเสริมแกร่งให้กับทีมในตำแหน่งปีกหลัง และการตัดสินใจเกี่ยวกับการเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มรายนี้อาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากที่เขาหมดภารกิจกับทีมชาติอังกฤษชุด U21 และแน่นอนตอนนี้ต้องการเสริมนักเตะที่เป็นตัวผู้เล่นในประเทศในฤดูกาลนี้ด้วย

ตอนนี้ สเปอร์ส ได้เสร็จสิ้นการเซ็นสัญญากับนักเตะไปแล้ว 2 ราย จากเป้าหมายที่ อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าเขาต้องการจะเสริมนักเตะในฤดูกาลนี้ 6-7 คน โดยในตอนนี้สองนักเตะที่ได้เซ็นสัญญากับ สเปอร์ส เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็คือ อิวาน เปริซิช และ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กำลังเจรจากับ อินเตอร์ มิลาน เพื่อเซ็นสัญญากับ อเลสซานโดร บาสโตนี นักเตะกองหลังทีมชาติอิตาลี ซึ่งเคยเล่นให้กับ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ ซาน ซิโร มาก่อน นักเตะกองกลางถนัดซ้ายหนุ่มรายนี้อยู่กับทีมใน เซเรียอา มาตั้งแต่ปี 2017 และลงเล่นให้สโมสร 44 นัดในปี 2021/22 และพวกเขาพลาดการคว้าแชมป์ลีกให้กับ เอซี มิลาน ไปแบบหวุดหวิด โดยมีคะแนนตามหลัง เอซี มิลาน แค่ 2 คะแนนเท่านั้น

การชวดย้ายทีม ของนักเตะมากฝีกมือ

Andrey Arshavin

รุย คอสต้า (จาก ฟิออเรนตินา ไปยัง บาร์เซโลนา)

เพลย์เมกเกอร์ระดับตำนานของสโมสร ฟิออเรนตินา และ เอซี มิลาน คือสุดยอดนักเตะหมายเลข 10 ที่มีฝีเท้าในการสร้างสรรค์เกมระดับท๊อปของโลกเลยทีเดียว โดยเขาเป็นนักเตะที่รีดฟอร์มการเป็นเพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10 ได้โดดเด่นที่สุดก็คือตอนที่เขาได้ลงเล่นให้กับ ฟิออเรนตินา เมื่อเขาเป็นคนคอนจ่ายบอลให้กับ กาเบรียล บาติสตูต้า กระซวกประตูได้เป็นกอบเป็นกำนั่นเอง

ในช่วงเวลาที่เขาเล่นให้กับ “วิโอลา” เขาเคยได้รับการทาบทามจากสโมสรชั้นนำอย่าง บาร์เซโลนา ที่กำลังขาดแคลนจอมทัพในแดนกลางไปช่วยสร้างสรรค์เกมด้วยพอดี แต่สิ่งที่ทำให้ รุย เลือกที่จะปฏิเสธก็คือ เขารู้สึกผูกพันกับชีวิตในประเทศอิตาลีมากกว่า เพราะนี่คือบ้านหลังที่ 2 ในสายตาของเขาเลยทีเดียว และเขาเองก็ไม่ชัวร์ว่าการย้ายไปเล่นในสเปนนั้น มันจะเหมาะสมกับสไตล์การเล่นแบบเบอร์ 10 แท้ๆของเขาได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็มีความแน่วแน่เช่นนี้เช่นกัน เขาถึงไม่ได้ย้ายสู่คัมป์นูในที่สุด

เดนนิส เบิร์กแคมป์ (จาก อาแจ็กซ์ ไปยัง บาร์เซโลนา)

เคสนี้จะมาแนวอาจารย์เตือนแล้วลูกศิษย์ไม่ฟังมากกว่า เพราะถ้าหากว่า “ดิ ไอซ์เบิร์ก” ทำตามคำแนะนำของอาจารย์ตัวเอง เขาคงไม่ต้องมานั่งเซ็งกับชีวิตในอิตาลีที่ไม่ราบเรียบเท่าไหร่นัก เดนนิส เบิร์กแคมป์ คือยอดดาวเตะที่มีทักษะการเล่นยอดเยี่ยมอย่างมาก เขารับบทเป็นกองหน้าตัวต่ำในทีม อาแจ็กซ์ แถมยังเป็นเด็กปั้นจากทีมเยาวชนโดยตรง เขาได้รับการสนับสนุนอย่างมาจากตัวของ โยฮัน ครัฟฟ์ สุดยอดตำนานนักเตะทีได้ผันตัวมาเป็นกุนซือ ซึ่งเขาได้รับโอกาสจากครัฟฟ์นี่เองในการผลักดันให้ได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ อาแจ็กซ์

แต่ว่าเมื่อตัวของ ครัฟฟ์ ได้ย้ายไปทำทีม บาร์เซโลนา ในสเปนแล้วนั้น ตัวของ เบิร์กแคมป์ ก็ยังคงเล่นในฮอลแลนด์ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง และช่วงนั้นเขาเองก็ได้รับการทาบทามอย่างมากมายจากทีมชั้นนำหลายๆแห่งที่อยากได้ตัวของเขาไปเล่นด้วย ซึ่งแน่นอนว่ามันมีทั้ง เอซี มิลาน และ บาร์เซโลนา ซึ่งเดาไม่ยากว่าที่บาร์ซ่าสนใจในตัวของกองหน้ารายนี้ ก็เพราะว่า ครัฟฟ์ อยากจะร่วมงานกับศิษย์เก่าฝีเท้าดีของเขารายนี้อีกครั้ง

แต่สิ่งที่น่ามึนงงก็คือ เบิร์กแคมป์ เลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน ทีมดังของเซเรียอาที่เวลานั้นกำลังเน้นในการเล่นเกมรับเป็นหลัก มันทำให้ ครัฟฟ์ ถึงกับงงมากที่ลูกศิษย์ตัวเองตัดสินใจเช่นนี้ โดยเขาระบุว่า ถ้าหากว่า เบิร์กแคมป์ จะย้ายจากอาแจ็กซ์ ก็สมควรเลือกทีมที่เน้นเกมรุก และควรพิจารณา บาร์เซโลนา ของเขาเป็นอันดับ 1 หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นทีม เอซี มิลาน

และแน่นอนว่าสิ่งที่ครัฟฟ์พูดออกมานั้นถูกต้องจริงๆ “ดิ ไอซ์เบิร์ก” ที่ไม่เลือกบาร์ซ่าหรือมิลาน และเลือกจะย้ายซบ อินเตอร์ เขาเล่นไม่ออก แถมยังเป็นที่เกลียดชังของ รูเบน โซซ่า ดาวยิงชาวอุรุกวัยที่ไม่เคยมองว่าดาวเตะรายนี้เป็นเพื่อนเลย … กว่าที่เขาจะรู้สึกตัวนั้นก็ต้องรอให้ อาร์แซน เวงเกอร์ เทรนเนอร์ของอาร์เซนอล มาดึงตัวไปเล่นด้วยนั่นเอง

คริสเตียโน โรนัลโด้ (จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยัง บาร์เซโลนา)

ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะดีลนี้เคยเกือบขึ้นมาแล้วจริงๆสำหรับตัวของ คริสเตียโน โรนัลโด้ โคตรกองหน้าซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุเกสที่เวลานี้เป็น 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และยังเป็นตำนานของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด

ว่าแต่ทำไมมันถึงมีข่าวว่าตัวของเขาเคยเกือบจะย้ายไปเล่นให้กับบาร์เซโลนา เราจะต้องเท้าความก่อนว่า ในช่วงหลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ทีมชาติโปรตุเกสนั้นมีประเด็นดราม่ากับทีมชาติอังกฤษในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยมันมีจังหวะที่ตัวของ เวย์น รูนีย์ เผลอไปเหยียบ “กะแป๋ง” ของริคาร์โด้ คาร์วัลโญ กองหลังฝีเท้าเด่นของโปรตุเกสเข้าให้ จนกรรมการในเกมนั้นโดนนักเตะโปรตุเกสเข้ามารุมกดดันว่าให้ลงโทษ รูนีย์ โดยเฉพาะกับรายของ โรนัลโด้ ที่เข้ามากดดันโดยที่ไม่สนเลยว่า รูนีย์ ต่อให้เป็นนักเตะของทีมฝั่งตรงข้าม แต่พวกเขาทั้งสองคนคือเพื่อนร่วมสโมสรเดียวกัน

และกรรมการก็ชูใบแดงไล่ รูนีย์ ออกจากสนาม หลังจากนั้นกล้องก็ได้จับภาพมาที่ โรนัลโด้ ทำขยิบตาไปทางฝั่งซุ่มม้านั่งสำรอง ซึ่งมีหลายคนสื่อได้ว่า โรนัลโด้ส่งซิกให้เพื่อนที่ม้านั่งว่าทำสำเร็จแล้วที่ไล่คีย์แมนในแนวรุกของอังกฤษอย่าง รูนีย์ ออกไปจากเกมได้ หลังจากทัวร์นาเมนต์จบลง โรนัลโด้ กลายเป็นที่เกลียดชังของแฟนบอลในอังกฤษ แม้แต่รูนีย์เองก็โกรธเขาเช่นกัน และมันก็มีข่าวหนาหูว่า โรนัลโด้ ที่อาจจะอยู่อังกฤษต่อไปไม่ได้แล้ว ก็เตรียมจะย้ายทีม โดยที่มี บาร์เซโลนา พร้อมเอาตัวของเขาไปเล่นด้วย

แต่คนที่สกัดการย้ายทีมก็คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่พร้อมสนับสนุนลูกทีมรายนี้เสมอ และรวมถึงเรื่องที่ว่า ครอบครัวของ โรนัลโด้ เป็นแฟนบอลทีม เรอัล มาดริด การจะย้ายไปเล่นให้กับบาร์เซโลนา อาจจะเป็นสิ่งที่ตะขิดตะขวงใจได้ สุดท้ายนั้นเขาก็ไม่ย้ายไป บาร์ซ่า และระเบิดฟอร์มกับผีแดงอย่างยอดเยี่ยมออกมา

อันเดร อาร์ชาวิน (จาก เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ไปยัง บาร์เซโลนา)

รายนี้น่าสงสารมากทีเดียว อ่อยแล้วอ่อยอีก แถมยังระเบิดฟอร์มเก่งได้ในการแข่งขันยูฟ่าคัพนัดชิงชนะเลิศปี 2008 และยังพาทีมชาติรัสเซียเข้ารอบน็อคต์เอาท์ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2008 ชนิดที่หลายทีมทั่วโลกต้องจับตามองฟอร์มการเล่นของ อันเดร อาร์ชาวิน เพลย์เมกเกอร์กึ่งหน้าต่ำของ เซนิต เลยทีเดียว แต่ว่าสโมสรที่เจ้าตัวโหยหาและอยากย้ายไปเล่นให้มากที่สุดก็คือ บาร์เซโลนา โดยในเวลานั้น บาร์ซ่าเพิ่งจะแต่งตั้ง เป๊ป กวาดิโอลาร์ ขึ้นมาทำทีม และตัวของหน้าต่ำหมายเลข 10 รายนี้ก็อ่อยถึงขั้นว่าถ่ายรูปตัวเองชูเสื้อแข่งขันชุดเหย้าของบาร์เซโลนาในฤดูกาล 2008-09 เลยทีเดียว ว่าเขาเป็นแฟนบอลทีมนี้ และอยากย้ายร่วมทัพ

แต่สุดท้ายนั้น ดีลการย้ายทีมก็ไม่เกิดขึ้น และตัวของ อาร์ชาวิน ต้องรอถึงต้นปี 2009 เขาถึงย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกกับอาร์เซนอล

ตามติดบ้านผลบอลและข้อมูลซ็อกเกอร์กันได้ทุกวันที่ บ้านผลบอล99.com

คันดี้ ชี้ ซาลาห์, มาเน่ ยังดีกว่า เดอ บรอยน์

คันดี้ ชี้ ซาลาห์, มาเน่ ยังดีกว่า เดอ บรอยน์

เจสัน คันดี้ อดีตกองหลังของทีมเชลซี เชื่อว่าดูโอ้ของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ นั้นมีฤดูกาลที่ดีกว่า เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เกมเกอร์ของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้

สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยม นั้นโชว์ฟอร์มน่าประทับใจกับ 4 ประตู ในการบุกไปถล่ม วูลฟ์ ด้วยสกอร์ 5-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ในฤดูกาลนี้เขาทำ 15 ประตู จากการลงสนาม 28 เกม

ในขณะเดียวกันที่ ซาดิโอ มาเน่ ลงสนาม 33 เกม ในฤดูกาลนี้มี 15 ประตูกับอีก 2 แอสซิส และ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ นั้นมี 22 ประตู จากการลงสนราม 34 เกมในลีกและมีอีกถึง 13 แอสซิส “ผมคิดเว่าฟอร์มของ เควิน เดอ บรอยน์ ดร็อปไปตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา” เจสัน คันดี้ กล่าวกับ talkSPORT.

“ถ้าหากคุณมองย้อนกลับไปที่ เดอ บรอยน์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มันเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเขา ผมคิดว่าเขากำลังกลับไปอยู่ในฟอร์มนั้นเมื่อวันพุธ แต่ว่าเขาต้องทำอะไรมากกว่านี้ เควิน เดอ บรอยน์ ควรได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีหรือไม่? ผมไม่คิดว่าเขาคือท็อป 3 ด้วยซ้ำ”

เมลช็อต ชี้ “พี่ตู้” ต้องจับเข่าคุยกับ ทูเคิ่ล ซักครั้ง

เมลช็อต ชี้ “พี่ตู้” ต้องจับเข่าคุยกับ ทูเคิ่ล ซักครั้ง

มาริโอ เมลช็อต อดีตนักฟุตบอลของทีมเชลซี เชื่อว่า โรเมลู ลูกากู กองหน้าผ้าเย็นของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” นั้นต้องการการจับเข่าคุยอย่างตรงไปตรงมากับผู้จัดการทีมอย่าง โทมัส ทูเคิ่ล เพราะว่าสถานการณ์ในตอนนี้กำลังทำลายความมั่นใจของเขา

กองหน้าวัย 28 ปี นั้นเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากนับตั้งแต่ย้ายกลับมาร่วมทีมเชลซี จาก อินเตอร์ มิลาน เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

และ เมลช็อต อดัตฟูลแบ็คก็เชื่อว่า ลูกากู ต้องเคลียร์กับ ทูเคิ่ล และยอมรับว่าเขาผิดหวังกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง “เขาต้องการการพูดคุยที่ดีและตรงไปตรงมากับโค้ชของเขา” มาริโอ เมลช็อต กล่าวกับ Talksport.

“เพื่อเข้าใจในสิ่งที่โค้ชของเขาต้องการเพราะว่าถ้าไม่เป็นเช่นนั้นมันจะเป็นการทำลสยความมั่นในของเขาไปเรื่อยๆ การกลับมาจากอาการบาดเจ็บและกลับเข้าสู่ทีม แน่นอนว่าเขาจำเป็นต้องทำประตูให้ได้ มันน่าเสียใจสำหรับนักเตะแบบเขาและความสามารถแบบเขา” 

โซยุนชู เฟิร์ม ตุรกี โฟกัสเพลย์ออฟบอลโลกกับ โปรตุเกส

โซยุนชู เฟิร์ม ตุรกี โฟกัสเพลย์ออฟบอลโลกกับ โปรตุเกส

คักลาร์ โซยุนชู ปราการหลังจอมแกร่งของทีมชาติตุรกี ออกมาคอนเฟิร์มว่าทีมของพวกเขานั้นกำลังโฟกัสให้กับเกมรอบเพลย์ออฟของรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกกับทีมชาติโปรตุเกส ในวันพฤหัสบดีนี้

ในขณะเดียวกันก็ไม่สนใจว่าจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของซุปเปอร์สตาร์โปรตุเกสวัย 37 ปี อย่าง คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ หรือไม่

“ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ โรนัลโด้ หรือไม่หรือว่าเขาจะเลืกเล่นฟุตบอล เขาบอกว่าเขาต้องการลงเล่นมากกว่านี้ให้กับทีมชาติของเขา” คักลาร์ โซยุนชู กล่าวกับ Tivibu Spor 

“พวกเราไม่ได้ไปบอลโลกมากกว่า 20 ปี ผมไม่สนใจหรอกว่ามันจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการคว้าถ้วยแชมป์ของ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ ด้วยหรือไม่ แต่ว่ามันมีความสำคัญสำหรับพวกเรามากกกว่าการคว้าแชมป์ของเขา มันจะเป็นเกมที่ยากมากๆ พวกเรารู้ดี พวกเราจะเริ่มเก็บตัวซ้อมเย็นนี้และพวกเราก็จะเล่นตามแท็คติกที่โค้ชได้วางเอาไว้”